Last updated: 16 ส.ค. 2564 | 6764 จำนวนผู้เข้าชม |
การเปลี่ยนแปลงของโลก (Global Change)
กับผลกระทบร้ายแรงต่อผิว
Global Change ภาวะเปลี่ยนแปลงของโลก
สาเหตุที่โลกร้อนขึ้นทุกวันจนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของเราอย่างเห็นได้ชัด เกิดจากการสร้างก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas : GHGs) ซึ่งถ้ามีพอดี ๆ ก็เหมาะกับการดำรงชีวิตช่วยให้อุณหภูมิสภาพอากาศเหมาะแก่การดำรงชีวิต แต่เมื่อพอมีมากเกินไปแทนที่จะสะท้อนรังสีบางส่วนกลับมายังโลกและปล่อยบางส่วนออกไปนอกโลก กลับเป็นว่าชั้นก๊าซเรือนกระจกหนาแล้วปล่อยออกไปไม่ได้ ทำให้โลกร้อนจนส่งผลกระทบกับโลกอย่างรุนแรงจนคนทั้งโลกหันกลับมาใส่ใจปัญหา ภาวะ โลก ร้อน มากขึ้น
วิดิโอแสดงรูรั่วของชั้นโอโซน ซึ่งมีผลต่อการกั้นรังสี UV จากดวงอาทิตย์
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่พ่วงกันมาคือชั้น Ozone เป็นรู เกิดจากการใช้ สารฟรีรอน (CFC) และฮารอน (Haron) ซึ่งเกิดจากการทำอุตสาหกรรม เมื่อสารนี้ลอยขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศแล้วแตกตัวจากการดูดกลืนรังสี UV แตกตัวเป็นสารคลอรีนและไปจับตัวกับโมเลกุลของโอโซน ทำให้ชั้นโอโซนเป็นรู เมื่อโอโซนเป็นรูก็จะทำให้รังสี UV ส่องลงมายังโลกได้ง่ายขึ้นโดยไม่มีอะไรกั้น ส่งผลโดยตรงต่อผิว ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังและปัญหาเกี่ยวกับผิวมากยิ่งขึ้น
----------------------------------
ระดับความลึกในการเข้าสู่ผิวของรังสี UVA / UVB
จากการที่ชั้น Ozone เป็นรูส่งผลให้รังสี UVA / UVB ทะลุลงมามากกว่าปกติ รังสี UVA ที่มีอนุภาคสูงในการทำลายชั้นผิวหนังลึกลงไปถึงชั้นคอลลาเจน ที่เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน หากมีอยู่มากจะทำให้ผิวหนังเรียบเนียนเต่งตึง และอิลาสตินที่มีความคล้ายคลึงกับคอลลาเจน ช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของผิว เป็นโครงสร้างสำคัญที่ทำให้เซลล์ผิวเรียงตัวอย่างเหมาะสม หากคอลลาเจนและอิลาสตินถูกทำลายจะส่งผลให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก ทำให้ดูแก่กว่าวัย
ส่วนรังสี UVB ถึงแม้จะลงไปในชั้นผิวได้ไม่ลึกเท่า UVA แต่ก็เป็นตัวที่ทำให้ผิวของเราคล้ำ ไหม้ แสบแดง ริ้วรอยได้ หากได้รับมาก ๆ จากผิวคล้ำไหม้จากแดดจะกลายเป็น ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือไฝ เมื่อเวลาผ่านไปหากฐานไฝขยายฝังรากลงไปในผิวจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนัง จะรักษาได้ยากที่สุดและมีอัตราการเสียชีวิตสูง แต่ด้วยคนไทยมีผิวเข้มจากการมีเม็ดสีเมลานินในผิวเยอะกว่าคนผิวขาว จึงยังพบเป็นมะเร็งชนิดนี้ไม่เยอะ แต่ยังมีเสมอและมีแนวโน้มที่จะมากขึ้น
โดยช่วงที่มีรังสี UVB เข้มข้นที่สุดควรหลีกเลี่ยงและควรจะทาครีมกันแดดปกป้องผิว อยู่ในช่วงเวลา 10 โมงเช้า - 4 โมงเย็น ( 10.00 - 16.00 น.) ซึ่งเป็นเวลา 6 ชั่วโมงที่เราใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน
ปัญหาผิวที่เกิดจากรังสี UVA , UVB
การทากันแดด
ควรทา 2 มิลลิกรัมต่อตารางเซนติเมตร หรือ 1 ข้อนิ้วชี้ทาได้ทั่วใบหน้า
(คนผิวขาวควรทาย้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมงหากออกแดด)
หากบำรุงผิวเป็นประจำอยู่แล้ว การทากันแดดจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลาย ในระหว่างที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็ทำการบำรุงฟื้นฟูผิวให้ดียิ่งขึ้น
----------------------------------
หากคุณกำลังมองหากันแดด
แนะนำ !! กันแดด Cielo ของ Dr.JiLL
ครีมกันแดดเซียโล่ ครีม กันแดด หน้า หนึ่งในผลิตภัณฑ์ในเครือเซรั่มคุณหมอ Dr.JiLL ภายใต้ บริษัท DRJL GROUP จำกัด ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยระดับ SPF50 PA+++ และช่วยปกป้องผิวจากแสง Blue light และมลภาวะ รวมถึง pm 2.5 ด้วยสารสกัดมอริงก้าและโอลีฟ จากสเปนและอิตาลีตามลำดับ ผ่านการทดสอบค่า SPF จากแล็บว่าตรงตามที่ระบุไว้จริง ผ่านการทดสอบความปลอดภัยต่อผิว (Dermatologically Tested) ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ไม่มีพาราเบนและแอลกอฮอล์ ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้
คุณสมบัติเด่น
19 ส.ค. 2564
24 ส.ค. 2564